12.05.2554

My SHoPPiNG SuNDay


เมื่อวานนี้ต่อมช้อปปิ้งของดิฉันเริ่มกลับมาทำงานตามปกติแล้วค่ะ...เย้...ดีใจจังเลย...\\(^.^)//

ดิฉันไปถึงห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านตั้งแต่ยังไม่ 11 โมงเช้าเลยล่ะค่ะ...โอ้โห...ที่ห้างฯ นี้มิได้มีมหกรรมลดราคาสินค้าครั้งยิ่งใหญ่อะไรหรอกค่ะ แต่สมาชิกในบ้านต่างก็มีอาการเบื่ออาหาร (ซึ่งก็คือเสบียงกรังที่เราซื้อเตรียมไว้เผื่อเป็นผู้ประสบภัยน้ำท่วมนั่นเองค่ะ) และเริ่มจะมีอาการขาดสารอาหารที่มีประโยชน์ตามๆ กันแล้วล่ะค่ะ : P 


เมื่อเราต้องการโปรตีนจากเนื้อสัตว์ และอยากทานสลัดอร่อยๆ และผักผลไม้ที่ใหม่และสด เราจะนึกถึงร้าน sizzler ก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ


หลังจากอิ่มหนำสำราญกับอาหารมื้อใหญ่กันแล้ว ปฏิบัติการช้อปปิ้งก็เริ่มขึ้นค่ะ แต่ส่วนใหญ่เป็น window shopping นะคะ....หุ...หุ...

ภาระกิจสำคัญในการมาห้างฯ ของเราคือการมาหาของอร่อยๆ ทาน และมาหาไอเดียและวัสดุอุปกรณ์ในการจัดระเบียบให้ข้าวของที่มีมากมายหลายอย่างในบ้านกันค่ะ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ดิฉันเพิ่งเอาของลงมาเก็บในห้องเก็บของได้แค่ห้องเดียวเองก็เหนื่อยแทบแย่แล้วล่ะค่ะ ตอนขนของจากชั้นล่างขึ้นไปกองๆ ไว้ชั้นบนก็ว่าเหนื่อยแล้วนะ ตอนขนลงมานี่ซิ...ยิ่งเหนื่อยกว่าอีกค่ะ สงสัยตอนนั้นจะต๊กกะใจ กลัวน้ำท่วมบ้าน เลยมีพละกำลังมากกว่าปกติน่ะค่ะ ^.^

ดิฉันตั้งใจว่าจะเตรียมบ้านเพื่อรับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ก็เลยจะย้ายของลงมาไว้ชั้นล่างเท่าที่จำเป็นเท่านั้นค่ะ 


และก็ต้องปรับแต่งพื้นที่ชั้นบนของบ้านให้สามารถเก็บของได้อย่างมีระเบียบมากขึ้นค่ะ เป้าหมายของเราจึงเป็นการมองหาชั้นวางของและกล่องเก็บของพลาสติก (กล่องพลาสติกไม่เป็นที่หมายปองของเจ้าปลวกผู้ชื่นชอบการกัดกินไม้) ที่ดูดีและแข็งแรงทนทานค่ะ 


 

Muji เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่มีไอเดียดีๆ ในการจัดเก็บข้าวของได้อย่างเป็นระเบียบและใช้พื้นที่ได้คุ้มสุดๆ ค่ะ

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

หลังจากเดินดูและเลือกซื้อของกันหลายชั่วโมงแล้ว เราก็แวะพักเหนื่อยและอัพเดทสินค้าและเครื่องดื่มประจำเทศกาลคริสต์มาสที่ร้านสตาร์บัคส์กันค่ะ


โชคดีที่มาเจอโปรโมชั่นลด 5% เมื่อซื้อสินค้าสตาร์บัคส์ด้วย Starbuck card ค่ะ ก็เลยได้ของสะสมลายคริสต์มาสมาเชยชมและ Starbuck VIA Christmas brend มาดื่มด่ำ เติมคาเฟอีนให้ร่างกายกันที่บ้านค่ะ

จากนั้นดิฉันแวะร้านหนังสือก่อนกลับบ้าน และได้หนังสือน่าอ่านมา 4 เล่มค่ะ ตอนแรกหยิบมาหลายเล่มเชียว แต่พยายามคัดออกให้เหลือน้อยที่สุด เพราะหนังสือที่มีอยู่ที่บ้านก็มีหลายเล่มที่ดิฉันยังไม่ได้อ่านเลยล่ะค่ะ -_-;


เมื่อได้เวลาอาหารเย็นแล้ว กระเพาะอาหารก็เริ่มทำงานและส่งสัญญานให้เราทราบทันที เพื่อเราจะได้ทำหน้าที่เจ้าของร่างกายที่ดี...ซึ่งก็คือการทานอาหารเย็นนั่นเองค่ะ...ทานอีกแล้ว...บ้านนี้ทานเก่งกันจังเลยนิ... =(^.^)= 

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ขออนุญาตผู้เขียนและเจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือ "อยู่อย่างไรเมื่อกายใจต้องเจ็บปวด" ขอพลิกหนังสือบางหน้ามาโพสต์ในบล็อคนี้ด้วยความชื่นชอบนะคะ

พอดิฉันเห็นหนังสือเล่มนี้ปุ๊บก็ "ปิ๊ง" ทันทีค่ะ ทีแรกดิฉันเข้าใจว่าเป็นหนังสือออกใหม่ แต่พอดูปีที่พิมพ์แล้วก็แปลกใจว่าหนังสือเล่มนี้พิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ พ.ศ. 2550 แต่...เอ..ทำไมดิฉันเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเมื่อเวลาล่วงเลยมาตั้ง 4 ปีแล้วล่ะ...หรือว่าตอนนั้นดิฉันยังอยู่ดีมีความสุข สภาพกายและใจเป็นปกติดี...แต่ตอนนี้เมื่อกายและใจเจ็บปวด ดิฉันก็เลยเพิ่งสะดุดตามองเห็นหนังสือเล่มนี้...T.T




หนังสือเล่มนี้อ่านง่าย ให้ข้อฉุกคิดหลายอย่าง อ่านแล้วอบอุ่น *.*
ทั้งๆ ที่กายใจของดิฉันเจ็บปวดมาได้สักพักหนึ่งแล้ว พอได้อ่าน...ได้คิด..ได้เรียนรู้ธรรมชาติของความเจ็บปวด ดิฉันก็รู้สึกเป็นกันเองกับความเจ็บปวดมากขึ้นค่ะ




...."ความเจ็บปวดใดๆ ล้วนเป็นอนิจจัง เหมือนกับชีวิตที่มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเช่นกัน"....


ดิฉันนึกไม่ออกว่าไปได้ยินใครเค้าพูดหรือจำคำพูดของใครมาว่า "บนโลกใบนี้ ไม่ได้มีเราเพียงแค่คนเดียวที่มีความทุกข์ ยังมีอีกหลายคนที่เป็นทุกข์และบางทีอาจจะทุกข์มากกว่าเราด้วยซ้ำไป" ค่ะ


ขอบคุณผู้เขียนสำหรับหนังสือดีๆ เล่มนี้นะคะ _/\_

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น