5.20.2559

Cherry Blossom Trip 2016 With Rilakkuma ตอนที่ 1 : วางแผนข้ามปี


การเดินทางตามล่าซากุระในปีนี้ของดิฉันเริ่มต้นมาจากการที่....ไมล์สะสม รอยัล ออร์คิด พลัส
จำนวน 43,000 ไมล์ (โดยประมาณ) ของการบินไทยที่มีในบัญชีของดิฉัน
มีกำหนดหมดอายุในเดือนกันยายน 2558 ค่ะ!!!!

ไมล์สะสมฯ ที่ใกล้จะหมดอายุจำนวนมากขนาดนี้ก็ไม่ต้องคิดอะไรกันมากแล้วล่ะ
รีบแลกไมล์สะสมฯ เป็นตั๋วเครื่องบินไปประเทศญี่ปุ่นไว้ก่อน...อุ่นใจกว่าค่ะ
แล้วจะไปตอนไหนดีล่ะ???? เพราะแผนการท่องเที่ยวต่างประเทศช่วงก่อน
สิ้นปี 2558 ของดิฉันก็แน่นพอสมควรซะแล้ว เกือบจะเดือนเว้นเดือน
กันเลยทีเดียว ถ้าจะเพิ่มทริปญี่ปุ่นอีกล่ะก็....กระเป๋าฉีกแน่ๆ ค่ะ

แต่จะมัวชักช้า...คิดนานก็ไม่ได้ ดิฉันก็เลยวางแผนข้ามปี (จะได้มีเวลา
เก็บเงินเที่ยว) แลกไมล์สะสมฯ เป็นตั๋วเครื่องบินไปชมซากุระที่ประเทศญี่ปุ่น
ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2559 ไว้ก่อน...แล้วหาเพื่อนร่วมเดินทางทีหลังค่ะ

และด้วยความรีบๆ...รีบคิดรีบตัดสินใจโดยไม่ได้หาข้อมูลไว้ก่อนล่วงหน้า
ดิฉันก็เลยเดาๆ ว่าซากุระในแถบคันโตน่าจะบานสะพรั่งช่วงต้นเดือนเมษายน
และวางแผนการเดินทางคร่าวๆ ไว้เป็น...เดินทางไปวันที่ 5 เมษายน และกลับ
วันที่ 13 เมษายน...โดยยึดเมืองโตเกียวเป็นฐานที่มั่น (ยังกะวางแผนออกรบนะคะ)
ก็จะได้ชมซากุระสวยๆ ทั้งในเมืองโตเกียวและนั่งรถไฟ (เช้าไป-เย็นกลับ) 
ออกไปตระเวนชมซากุระตามเมืองที่อยู่รอบๆ โตเกียวค่ะ

เมื่อได้แผนการเดินทางแบบคร่าวๆ แล้ว ดิฉันก็ไปดูตารางเที่ยวบินของการบินไทย
ที่ http://www.thaiairways.com/th_TH/index.page แล้วโทรฯ ไปสำรองที่นั่ง
ที่หมายเลข 02 356 1111 และแลกไมล์สะสมฯ เป็นตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศญี่ปุ่นค่ะ

*ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับไมล์สะสม รอยัล ออร์คิด พลัส ได้ ที่นี่ นะคะ


หลังจากที่ได้ตั๋วเครื่องบินแล้วดิฉันก็จองห้องพักที่โตเกียวรอไว้เลยค่ะ
เพราะคาดว่าช่วงเดือนเมษายนนั้นนักท่องเที่ยว (โดยเฉพาะคนไทย) 
น่าจะเยอะแล้วห้องพักคงจะเต็มเร็วแน่ๆ เลยค่ะ
ตอนแรกดิฉันจองห้องพักที่ Kadoya Hotel ที่เคยพักเมื่อ 2 ปีก่อนค่ะ


Kadoya Hotel อยู่ในย่านชินจูกุ ใกล้แหล่งช้อปปิ้งมากๆ....อยู่ใกล้สถานีชินจูกุ
เดินทางสะดวกมากค่ะ และบริเวณทางออกด้านตะวันตกของสถานีชินจูกุ
ก็เป็นจุดขึ้น-ลงของ Airport Limousine Bus ด้วยนะคะ
โรงแรมที่อยู่ในทำเลดีขนาดนี้...ค่าห้องพักก็ต้องสูงเป็นของคู่กันค่ะ
ห้องพักคู่ราคาคืนละ 16,700 เยน...คิดเป็นเงินไทยตอนนั้นก็ประมาณห้าพันบาทนิดๆ 
แต่ดิฉันก็จองห้องติดๆ ไว้ก่อนกลัวไม่มีที่นอน...คิดซะว่าจ่ายแพงแลกความสะดวกน่ะค่ะ

สำหรับ Toyoko Inn โรงแรมราคามิตรภาพที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทย
ในระยะหลังๆ นี้ก็มีสาขาในย่านชินจูกุด้วยนะคะ

Toyoko Inn สาขาชินจูกุตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของสถานีชินจูกุค่ะ 
เมื่อปีที่แล้วดิฉันก็ไปพักที่นี่แต่ไม่ประทับใจเพราะเดินทางไม่ค่อยสะดวก 
ทางเดินจากสถานีรถไฟไปโรงแรมค่อนข้างแคบ มีความชันนิดๆ และ
พื้นถนนขรุขระด้วยน่ะค่ะ

เมื่อจองที่พักที่ Kadoya Hotel ไว้แล้วก็สบายใจหายห่วง...แต่ดิฉันก็ลองดู
ในเว็บไซต์ของ Toyoko Inn (เพราะราคาสบายกระเป๋า) อีกนะคะว่ามีสาขาไหน
ที่น่าไปพักบ้าง...เน้นที่เดินทางสะดวกใกล้สถานีรถไฟเข้าไว้ค่ะ


ดิฉันไล่ดูรายละเอียดไปทีละสาขาจนไปเจอ Toyoko Inn ที่น่าสนใจ
ในย่าน Ikebukuro ซึ่งมี Toyoko Inn  2 แห่ง...ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันค่ะ


Ikebukuro ก็เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ดิฉันชอบไปแต่ไม่เคยไปพักย่านนี้เลยค่ะ
ดูจากแผนที่โรงแรมแล้ว....น่าจะเดินไปจากสถานี Ikebukuro ได้สะดวก 
ดิฉันก็เลยหาข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีจุดขึ้น-ลง Airport Limousine Bus 
ตรงไหนบ้างหรือไม่ เพราะตอนไปขึ้นเครื่องบินกลับดิฉันจะต้องมีสัมภาระ
เยอะมากๆ....ควรใช้บริการ Airport Limousine Bus เป็นอย่างยิ่งค่ะ

จากเว็บไซต์ Airport Limousine Bus  มีจุดขึ้น-ลงรถบัส ในย่าน Ikebukoro 
อยู่ที่ Hotel Metropolitan Tokyo และ Sunshine City Prince Hotel ค่ะ


ดิฉันดูแผนที่ใน google map...ระยะทางจาก Hotel Metropolitan Tokyo ไป
Toyoko Inn Ikebukuro ประมาณ 750 เมตร และเดินประมาณ 10 นาที....สบายมากค่ะ


ดูๆ แล้ว Toyoko Inn Ikebukuro ก็น่าพักและเดินทางสะดวกพอๆ กับ Kadoya Hotel เลยล่ะค่ะ
จะด้อยกว่าหน่อยก็ตรงที่ไกลจากจุดขึ้น-ลง Airport Limousine Bus มากกว่าเท่านั้นเอง
แต่ราคาห้องพักที่ Toyoko Inn ถูกกว่าที่ Kadoya Hotel แน่ๆ ค่ะ 

จากนั้นดิฉันก็รีบเข้าไปจองห้องพักที่ Toyoko Inn Ikebukuro No 2.ทันทีค่ะ
ห้องพักคู่วันธรรมดาราคาคืนละ 10,584 เยน...วันหยุดราคาคืนละ 11,124 เยน*
ประหยัดเงินได้ประมาณคืนละหกพันเยนเชียวนะคะ.....เย้ๆๆๆๆ.......
(*เป็นราคาสมาชิก Toyoko Inn Club นะคะ....ดูรายละเอียดและสิทธิประโยชน์
ของสมาชิกได้ ที่นี่ ค่ะ)

เมื่อจองห้องพักที่ Toyoko Inn Ikebukuro แล้วดิฉันก็ไปยกเลิกห้องพักที่จองไว้ที่
Kadoya Hotel และรอๆๆ ว่าเมื่อไรการคาดการณ์ช่วงเวลาบานของซากุระ
จะออกมาซะที...จะได้วางแผนการท่องเที่ยวต่อได้น่ะค่ะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 

และแล้ว...วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 ก็มีการคาดการณ์ช่วงเวลาบานของซากุระ
จาก www.japan-guide.com ออกมาให้ดีใจว่าดิฉันซื้อตั๋วเครื่องบินไปชม
ซากุระที่เมืองโตเกียวได้อย่างแม่นยำมากๆๆๆ.....ค่ะ



 แต่คุณพี่ของดิฉันก็บอกว่าอย่าเพิ่งดีใจมากไป...รอดูอัพเดทไปเรื่อยๆ ก่อนค่ะ

อัพเดทการคาดการณ์ช่วงเวลาบานของซากุระที่ออกมาช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์
เลื่อนขึ้นมานิดนึงค่ะ



พอต้นเดือนมีนาคม...อัพเดทการคาดการณ์ช่วงเวลาบานของซากุระก็เลื่อนขึ้นมา
อีกหลายวันเลย...เริ่มไม่ค่อยดีซะแล้วล่ะค่ะ


ดิฉันเลยหาข้อมูลการคาดการณ์ช่วงเวลาบานของซากุระในเว็บอื่นบ้าง...
ดูข้อมูลจาก www.jnto.go.jp แล้วดิฉันยิ่งใจเสีย....แผนการท่องเที่ยวของดิฉัน
หลุดจากการคาดการณ์ช่วงเวลาบานของซากุระออกไปไกลขึ้นทุกทีๆ แล้วล่ะค่ะ!!!!!    



จากที่คิดไว้ว่าจะได้ชมซากุระสวยๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลายๆ แห่ง
ในเมืองโตเกียว...ดิฉันเลยต้องวางแผนใหม่เป็นการเดินทางออกไปชมซากุระ
ที่เมืองอื่นๆ เป็นส่วนใหญ่แทน....แบบเช้าไป-เย็นกลับมานอนพักที่โตเกียวค่ะ
แต่จะมีอยู่หนึ่งคืนที่จะต้องไปพักที่ NIIGATA เพราะเมืองนี้อยู่ไกลจากโตเกียวมาก
ใช้เวลาเดินทางไปและกลับในวันเดียวกันก็จะเหนื่อยเกินไปและจะไม่ได้ไปดู
ซากุระสวยๆ ในสวนตอนกลางคืนที่ NIIGATA ด้วยล่ะค่ะ


ถ้าอย่างนั้นดิฉันก็ต้องจองห้องพักที่ NIIGATA อีกหนึ่งคืนค่ะ
ดิฉันลองดูในเว็บไซต์ของ Toyoko Inn ก่อนเลยว่ามีสาขาที่ NIIGATA ด้วยหรือไม่
และก็เจอ Toyoko Inn Niigata Ekimae ซึ่งอยู่ใกล้สถานี NIIGATA มากๆๆ
ได้ห้องพักคู่ราคาคืนละ 8,413 เยน (ราคาสมาชิก Toyoko Inn Club) ค่ะ

เมื่อวางแผนท่องเที่ยวแล้วว่าวันไหนจะไปเมืองไหนบ้าง...
ดิฉันก็หาข้อมูลสถานที่ชมซากุระจาก www.japantimeline.jp และ www.chillchilljapan.com
เป็นหลัก แล้วเลือกไปเมืองละประมาณ 2-3 แห่ง...จะได้ไม่เหนื่อยเกินไปค่ะ

การวางแผนไปตามล่าซากุระในครั้งนี้ของดิฉันเป็นการไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก
ที่ดิฉันต้องวางแผนทุกอย่างเอง จองโรงแรมเอง ปะติดปะต่อการใช้รถไฟเอง
ด้วยเว็บไซต์ Hyperdia...โดยมีคุณพี่ของดิฉันคอยเป็นพี่เลี้ยงให้ค่ะ

Hyperdia เป็นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟอย่างละเอียด
ซึ่งได้แก่ ตารางเวลาเดินรถ ระยะเวลาในการเดินทาง ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
และหมายเลขชานชาลาที่รถไฟเข้าและออก 

ศึกษาวิธีการใช้ เว็บไซต์ Hyperdia ได้ที่ www.jnto.or.th ค่ะ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งทีจะขาดไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวใน
ประเทศญี่ปุ่น คือ... JR Pass ค่ะ


JR Pass (เจแปนเรลล์พาส) คือ ตั๋วแบบเหมาจ่ายซึ่งราคาถูกที่สุดสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว
โดยรถไฟในประเทศญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ เป็นพาสที่กลุ่มบริษัทรถไฟญี่ปุ่น 6 บริษัทร่วมมือกัน
นำเสนอบริการนี้ โดยมีเงื่อนไขการใช้ที่สำคัญ...คือ ไม่สามารถใช้โดยสารขวนรถไฟ "โนโซมิ" 
รถไฟ "มิซูโฮะ" ของโทไกโด-ซันโย-คิวชู ชินคันเซ็น ค่ะ

JR Pass มี 2 ประเภท คือที่นั่งชั้นกรีนคาร์และที่นั่งชั้นธรรมดา ซึ่งแบ่งออกเป็นพาสแบบ 7 วัน
แบบ 14 วัน และแบบ 21 วัน....ดูราคาตามตารางข้างล่างนี้แล้วบางคนอาจคิดว่า JR Pass 
มีราคาสูงมากเลย...แต่ถ้าได้ใช้เดินทางแล้วจะรู้ว่าคุ้มค่ามากๆ ช่วยประหยัดค่าเดินทาง
ได้ตั้งเยอะเชียวล่ะค่ะ


ดูข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมดของ JR Pass (เจแปนเรลล์พาส) ได้ที่
เว็บไซต์ Japan Rail Pass นะคะ

แต่ทริปตามล่าซากุระของดิฉันจะมีการเดินทางอยู่ในบริเวณญี่ปุ่นตะวันออกเท่านั้น
ดิฉันก็จะซื้อแค่พาสย่อย...เป็น JR ญี่ปุ่นตะวันออกซึ่งมีราคาถูกกว่า JR Pass ค่ะ


ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา...ที่ดิฉันกำลังวางแผนการเดินทางอยู่นั้น
East Japan Railway Company ได้มีการปรับเปลี่ยนพาสและเส้นทางรถไฟ
ซึ่งมีพาสย่อยที่ครอบคลุมบริเวณที่ดิฉันจะเดินทางด้วยพอดีเลยนะคะ
นั่นก็คือ...JR EAST PASS : Nagano, Niigata Area ราคา 18,000 เยน
เป็นพาสแบบ Flexible ใช้ได้ 5 วันภายใน 14 วันหลังจากที่ออกตั๋วไปแล้ว
และเริ่มใช้งานในวันที่ 1 เมษายน 2559 ค่ะ



ดูข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมดของ JR EAST PASS : Nagano, Niigata Area ได้ที่
เว็บไซต์ JR EAST PASS นะคะ

จากข้อมูลในเว็บไซต์...การซื้อ JR PASS จากนอกประเทศญี่ปุ่นจะถูกกว่าไปซื้อที่ประเทศญี่ปุ่น
และสามารถติดต่อขอรายละเอียดและซื้อพาสได้ที่ตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ดังนี้ ค่ะ

ดิฉันรีบโทรฯ ไปถามที่บริษัท JTB Thailand ทันที...เพราะการจำหน่าย JR EAST PASS:
Nagano, Niigata Area ในต่างประเทศจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มีนาคม 2559 ค่ะ
แต่แล้ว....ดิฉันก็ไม่มีโอกาสได้ประหยัดงบเพราะ JR PASS แบบใหม่นี้
ไม่มีมาจำหน่ายที่ประเทศไทย...ดิฉันต้องรอไปซื้อที่ประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ

และจากข้อมูลในเว็บไซต์ JR EAST PASS ...เวลาทำการของ JR EAST Travel Service Center 
ที่สถานี Ikebukuro คือ 10.00-20.00 น. (วันธรรมดา) และ 10.00-18.00 น. (วันหยุด)
ถ้าอย่างนั้นดิฉันก็ควรซื้อ JR EAST PASS ที่สนามบินเลย...สะดวกกว่าค่ะ


ในขณะที่ดิฉันเพิ่งวางแผนได้เพียงคร่าวๆ เท่านั้น...คุมะก็พร้อมออกเดินทาง
ไปชมซากุระที่ดินแดนอาทิตย์อุทัยแล้วล่ะ เสื้อผ้าหน้าผม...จัดเต็มค่ะ...ฮ่า ฮา ฮา.......


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เกือบลืมค่ะ...เกือบลืม...สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของการเดินทางท่องเที่ยวในยุคเทคโนโลยีก้าวไกล
นั่นก็คือ pocket wifi ...เอาไว้ใช้หาข้อมูลการเดินทาง ที่เที่ยว ที่กิน ที่ช้อปปิ้ง และอื่นๆ อีกมากมายค่ะ

ดิฉันเช่า pocket wifi ของ BS MOBILE เพราะตอนนั้นมีโปรโมชั่นที่ราคาถูกที่สุดค่ะ


และใช้สิทธิพิเศษสำหรับบัตรสมาชิกคิง เพาเวอร์ รับส่วนลด 20% ได้ด้วยนะคะ

สอบถามโปรโมชั่นที่ BS MOBILE โทร. 02 632 9176-8
www.bs-mobile.jp/th และ www.globalwifi-thai.com ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น