หลายคนที่ติดตามอ่านบล็อคของดิฉันจะทราบว่าดิฉันติดตามข่าวสารและดูภาพเหตุการณ์สึนามิถล่มประเทศญี่ปุ่นมาโดยตลอดตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาแล้วค่ะ
หนึ่งในหลายๆ หัวข้อที่ใครๆ พูดถึงกันในตอนนี้ก็คือการชื่นชมถึงความมีสติ และความมีระเบียบวินัยของชาวญี่ปุ่นค่ะ
น่าทึ่งมากๆ เลยนะคะ ที่เค้ามีสติตั้งรับกับเหตุการณ์ที่น่าสะพึงกลัวเช่นนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม เราเห็นภาพความเสียหายย่อยยับของอาคารบ้านเรือนและทรัพย์สิน ภาพความสูญเสีย บาดเจ็บ ล้มตายของบุคคลผู้เป็นที่รัก...มากมาย...หลายร้อย หลายพันภาพ แต่...เราไม่เห็นภาพความโกลาหลวุ่นวาย การทะเลาะวิวาท แย่งชิง ปล้นสดมภ์ เสบียงอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ ของประชาชนชาวญี่ปุ่น (เหมือนอย่างที่เราเคยเห็น...เมื่อเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติในประเทศอื่นๆ) เลยค่ะ
ไม่ทราบว่าคุณสมบัติเช่นนี้เป็นคุณลักษณะพิเศษที่ถ่ายทอดกันมาทางพันธุกรรม หรือเป็นการฝึกฝนกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกของประชาชนชาวญี่กันแน่ค่ะ แต่ที่แน่ๆ ก็คือคุณสมบัติที่ว่านี้ทำให้พวกเค้าสามารถรับมือกับมหันตภัยครั้งใหญ่นี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ
ความมีระเบียบวินัยของชาวญี่ปุ่นช่วยให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลายลงได้มากค่ะ ผู้คนจำนวนมากมายมหาศาลต่างก็รู้ว่าตัวเองต้องปฏิบัติตนเช่นไรโดยอัตโนมัติ พวกเค้าจัดระเบียบ เข้าแถวตามลำดับก่อน-หลัง ไม่เบียดเสียด ด่าทอต่อว่า หรือใช้กำลังแย่งชิงกัน และไม่ละเมิดสิทธิ์ ลักขโมยสิ่งของของผู้อื่นด้วยนะคะ
เราจะเห็นว่าพวกเค้าเข้าแถวรอรับความช่วยเหลือและบริการต่างๆ อย่างอดทน รู้หน้าที่ของตนเองและเคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกันค่ะ
ภาพข่าวที่เห็นชาวญี่ปุ่นเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเพื่อรอใช้โทรศัพท์ และเมื่อใช้โทรศัพท์ครบตามเวลาที่กำหนดแล้วก็วางสายทันทีเพื่อให้คนอื่นได้ใช้บ้าง....
ภาพข่าวที่เห็นชาวญี่ปุ่นที่เข้าแถวรอซื้อของอยู่หน้าร้านขายของรีบวิ่งกรูกันเข้าไปซื้อสินค้าเมื่อร้านเปิด แต่ก็หยุดทันทีเมื่อพนักงานปิดประตูเมื่อจำนวนลูกค้าครบตามจำนวนที่กำหนด ไม่มีการส่งเสียงโวกเวกโวยวาย พยายามยื้อแย่งหรือเบียดเสียดเข้าไปในร้าน....
และภาพข่าวอื่นๆ ในลักษณะนี้เป็นเรื่องที่เล่าสู่กันฟังอย่างชื่นชมเป็นอย่างมาก และต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเราน่าจะมีระเบียบวินัยได้อย่างพวกเค้าบ้างค่ะ
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ดูจากความมีระเบียบวินัยที่สุดยอดของลูกหลานซามูไรแห่งแดนอาทิตย์อุทัย (แบบที่ไม่มีในชาติใดในโลก) นี้แล้ว ดิฉันมั่นใจว่าพวกเค้าจะสามารถบูรณะ สร้างบ้านเมืองให้กลับมารุ่งโรจน์อีกครั้งได้ในเวลาไม่นานเฉกเช่นเดียวกับที่บรรพบุรุษของเค้าทำได้สำเร็จอย่างงดงามเมื่อครั้งที่โดนระเบิดนิวเคลียร์ทำลายล้างอย่างหนักเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สองอย่างแน่นอนค่ะ
นี่คือเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่และบทเรียนล้ำค่าที่ได้ผ่านสู่สายตาชาวโลกแล้วค่ะ
“Looting simply does not take place in Japan. I’m not even sure if there’s a word for it that is as clear in its implications as when we hear ‘looting,’” said Gregory Pflugfelder, director of the Donald Keene Center of Japanese Culture at Columbia University.
Japanese have “a sense of being first and foremost responsible to the community,” he said (source: http://goo.gl/oacpa)
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
หากใครได้ชมการพูดคุยของคุณสรยุทธ์กับแขกรับเชิญท่านหนึ่งในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้เมื่อวานตอนเย็น ดิฉันคาดว่าคุณจะเห็นด้วยกับคำพูดของแขกรับเชิญท่านนั้นเหมือนดิฉันค่ะ
ท่านพูดว่า "โชคดีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น..."
ไม่ใช่ว่าท่านและดิฉันจะดีใจที่ชาวญี่ปุ่นประสบความเสียหายนะคะ แต่นี่เป็นความโชคดีในความโชคร้ายต่างหากค่ะ ลองนึกดูซิค่ะว่าถ้าเหตุการณ์นี้ไปเกิดกับประเทศอื่นๆ แล้วล่ะก็...ความสูญเสีย ความเสียหาย ความวุ่นวายโกลาหล จะมีมากมาย ทบเท่าทวีคูณมากกว่านี้หลายเท่านักค่ะ คงไม่มีประเทศไหนจะรับมือกับมหันตภัยอันใหญ่หลวงในครั้งนี้ได้เหมือนกับประเทศญี่ปุ่นแล้วล่ะค่ะ...คอนเฟิร์ม...
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
แล้วเราได้เรียนรู้อะไรกันบ้างจากเหตุการณ์ครั้งนี้ค่ะ หากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้กับเราบ้าง...เราพร้อมรับมือกันแล้วหรือยังค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น