เครดิตรูปภาพ : thelovelyair.com
หลังจากที่ดิฉันเริ่มจริงจังกับการออกกำลังกาย...และให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหาร
ที่มีประโยชน์มากขึ้น (เมื่อก่อนจะออกกำลังกายเมื่อมีโอกาส แต่เดี๋ยวนี้จะหาโอกาส
ออกกำลังกาย และจากที่เลือกทานแต่อาหารที่ชอบก็เปลี่ยนเป็นทานอาหารต่างๆ
ที่มีประโยชน์ด้วย...ไม่เน้นที่ความอร่อยเท่านั้น) ดิฉันก็ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับ
คุณประโยชน์ต่างๆ และคุณค่าทางโภชนาการของอาหารด้วยค่ะ
มันฝรั่ง...เป็นอาหารอย่างหนึ่งที่ดิฉันเพิ่งจะเริ่มทานบ่อยๆ เมื่อไม่นานมานี้เองล่ะค่ะ
เพราะด้วยความเข้าใจผิด...คิดว่ามันฝรั่งเป็นอาหารจำพวกแป้งที่ทำให้อ้วน!!
แต่จากการค้นคว้าหาข้อมูลแล้ว...ดิฉันพบว่ามันฝรั่งมีสรรพคุณช่วยลดความอ้วนได้นะคะ
มันฝรั่งจะช่วยให้อิ่มท้องได้นาน ช่วยให้ไม่รู้สึกหิวได้ง่าย....เป็นอาหารที่มีปริมาณ
พลังงานต่ำ มันฝรั่งต้ม 100 กรัมน่ะให้พลังงานเพียงแค่ 75-80 แคลอรี่เท่านั้น และ
99.99% ไม่มีไขมันนะคะ มันฝรั่งอุดมไปด้วยพลังงานคาร์โบไฮเดรต โปรตีน
(โปรตีนที่ได้จากมันฝรั่งมีคุณภาพดีกว่าโปรตีนที่ได้จากพืชอื่นๆ เช่น ถั่วลิสง)
และเส้นใยอาหาร และมีธาตุแคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ไอโอดีน
แมกนีเซียม กรดโฟลิก วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวิตามินซีในปริมาณที่เป็น
ประโยชน์ต่อร่างกายด้วยค่ะ แต่วิตามินซีในมันฝรั่งจะเริ่มสูญสลายไปตั้งแต่
เก็บเกี่ยว หัวมันใหม่ๆ จึงยังคงมีวิตามินซีสูงสุด กรรมวิธีการปรุงด้วยการต้ม
หรือเผาจะช่วยเก็บรักษาวิตามินซีได้มากที่สุดค่ะ ส่วนการทอดจะเป็นการทำลาย
วิตามินซีที่มีในมันฝรั่ง.....และมันฝรั่งทอดจะมีพลังงานเพิ่มขึ้นมากจากน้ำมัน
ที่ใช้ทอด เพราะมันฝรั่งสามารถดูดซับน้ำมันได้มากถึง 30-40% ซึ่งจะเป็น
ตัวการทำให้เราอ้วน...เราควรหลีกเลี่ยงการทานมันฝรั่งทอดกันนะคะ
การเลือกซื้อมันฝรั่งมาทำอาหาร...ควรเลือกหัวที่มีสีเหลือง ไม่มีปุ่มของตาราก
ที่กำลังงอกหรือหัวที่มีจุดสีเขียวอ่อน เพราะนั่นเป็นมันฝรั่งที่เก็บเอาไว้นานแล้ว
เนื้อจะไม่ค่อยอร่อยค่ะ มันฝรั่งที่มีจุดเขียวๆ และมีรากงอกออกมาจะมีส่วนประกอบ
ของสารอัลคาลอยด์ (Alkaloid) ที่เรียกว่า ซาโคนีน (Chaconine) และโซลานีน
(Solanine) ซึ่งหากมีจำนวนมากเกินไปก็อาจจะเป็นพิษร้ายแรงได้ เราจึงควรคัดหัว
ที่มีจุดสีเขียวทิ้งไปนะคะ สำหรับผู้แพ้สารโซลานีน แม้จะได้รับเข้าไปเพียงเล็กน้อย
ก็อาจจะทำให้เป็นไมเกรนได้เลยล่ะค่ะ
และดิฉันก็ทราบเคล็ดลับการเลือกมันฝรั่งมาทำมันบดด้วยค่ะว่า....การเลือก
มันฝรั่งจะมีผลกับเนื้อสัมผัสของมันบด มันฝรั่งที่มีผิวบางเรียบเงา เป็นมันฝรั่ง
ที่มีแป้งน้อยและน้ำมาก สามารถนำไปต้มได้ มันประเภทนี้จะไม่ดูดน้ำมาก
เนื่องจากมีน้ำมากอยู่แล้ว ส่วนมันที่มีผิวสากๆ และหนา จะมีเนื้อที่แน่นและน้ำน้อย
ถ้าจะนำมาทำมันบด ควรจะนำไปนึ่งมากกว่าต้มเพราะจะดูดน้ำมากเกินไปค่ะ
การปรุงอาหารจากมันฝรั่ง...จะต้องล้างมันฝรั่งด้วยน้ำให้สะอาดก่อนที่จะนำมาต้ม
นึ่ง หรืออบ และควรปรุงทั้งเปลือกเพื่อรักษากลิ่นที่หอมของมันฝรั่งเอาไว้
และยังช่วยรักษาวิตามินซีในมันฝรั่งไม่ให้ถูกทำลายไปด้วยค่ะ
ส่วนน้ำที่ต้มมันฝรั่งนั้นสามารถเก็บไว้ไปทำน้ำซุปได้นะคะ
อาหารที่มีมันฝรั่งเป็นส่วนประกอบนั้นมีหลายอย่าง....นำมันฝรั่งมานึ่งให้สุก
แล้วทานเลยก็อร่อยได้ง่ายๆ ถ้านำไปทำมันบด สลัด ซุป หรือแกง ก็อร่อยยิ่งขึ้นค่ะ
และที่ดิฉันชอบทำบ่อยๆ เพราะทำได้ง่ายมากๆ และคนอื่นก็ต้องทำได้แน่นอน.....
คือแกงกะหรี่ญี่ปุ่น และสลัดมันฝรั่งบดสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ
ดูสูตรสลัดมันบดสไตล์ญี่ปุ่น ที่นี่ ค่ะ
*ต่อจากนี้ไปดิฉันจะต้มมันฝรั่งทั้งเปลือกแล้วล่ะค่ะ*
การเก็บมันฝรั่ง....ไม่ควรนำมันฝรั่งไปแช่ตู้เย็น เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้ราก
ของมันฝรั่งงอกอย่างรวดเร็ว ควรวางมันฝรั่งไว้ในที่อุณหภูมิปกติ
และอากาศถ่ายเทได้สะดวกค่ะ
เพื่อสุขภาพที่ดี.....เพิ่มมันฝรั่งเป็นอาหารจานโปรดกันค่ะ
~~~~~~~~~~~~~~
ที่มาของข้อมูล : www.wikipedia.org, www.doctor.or.th
คุณประโยชน์ต่างๆ และคุณค่าทางโภชนาการของอาหารด้วยค่ะ
มันฝรั่ง...เป็นอาหารอย่างหนึ่งที่ดิฉันเพิ่งจะเริ่มทานบ่อยๆ เมื่อไม่นานมานี้เองล่ะค่ะ
เพราะด้วยความเข้าใจผิด...คิดว่ามันฝรั่งเป็นอาหารจำพวกแป้งที่ทำให้อ้วน!!
แต่จากการค้นคว้าหาข้อมูลแล้ว...ดิฉันพบว่ามันฝรั่งมีสรรพคุณช่วยลดความอ้วนได้นะคะ
มันฝรั่งจะช่วยให้อิ่มท้องได้นาน ช่วยให้ไม่รู้สึกหิวได้ง่าย....เป็นอาหารที่มีปริมาณ
พลังงานต่ำ มันฝรั่งต้ม 100 กรัมน่ะให้พลังงานเพียงแค่ 75-80 แคลอรี่เท่านั้น และ
99.99% ไม่มีไขมันนะคะ มันฝรั่งอุดมไปด้วยพลังงานคาร์โบไฮเดรต โปรตีน
(โปรตีนที่ได้จากมันฝรั่งมีคุณภาพดีกว่าโปรตีนที่ได้จากพืชอื่นๆ เช่น ถั่วลิสง)
และเส้นใยอาหาร และมีธาตุแคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ไอโอดีน
แมกนีเซียม กรดโฟลิก วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวิตามินซีในปริมาณที่เป็น
ประโยชน์ต่อร่างกายด้วยค่ะ แต่วิตามินซีในมันฝรั่งจะเริ่มสูญสลายไปตั้งแต่
เก็บเกี่ยว หัวมันใหม่ๆ จึงยังคงมีวิตามินซีสูงสุด กรรมวิธีการปรุงด้วยการต้ม
หรือเผาจะช่วยเก็บรักษาวิตามินซีได้มากที่สุดค่ะ ส่วนการทอดจะเป็นการทำลาย
วิตามินซีที่มีในมันฝรั่ง.....และมันฝรั่งทอดจะมีพลังงานเพิ่มขึ้นมากจากน้ำมัน
ที่ใช้ทอด เพราะมันฝรั่งสามารถดูดซับน้ำมันได้มากถึง 30-40% ซึ่งจะเป็น
ตัวการทำให้เราอ้วน...เราควรหลีกเลี่ยงการทานมันฝรั่งทอดกันนะคะ
การเลือกซื้อมันฝรั่งมาทำอาหาร...ควรเลือกหัวที่มีสีเหลือง ไม่มีปุ่มของตาราก
ที่กำลังงอกหรือหัวที่มีจุดสีเขียวอ่อน เพราะนั่นเป็นมันฝรั่งที่เก็บเอาไว้นานแล้ว
เนื้อจะไม่ค่อยอร่อยค่ะ มันฝรั่งที่มีจุดเขียวๆ และมีรากงอกออกมาจะมีส่วนประกอบ
ของสารอัลคาลอยด์ (Alkaloid) ที่เรียกว่า ซาโคนีน (Chaconine) และโซลานีน
(Solanine) ซึ่งหากมีจำนวนมากเกินไปก็อาจจะเป็นพิษร้ายแรงได้ เราจึงควรคัดหัว
ที่มีจุดสีเขียวทิ้งไปนะคะ สำหรับผู้แพ้สารโซลานีน แม้จะได้รับเข้าไปเพียงเล็กน้อย
ก็อาจจะทำให้เป็นไมเกรนได้เลยล่ะค่ะ
และดิฉันก็ทราบเคล็ดลับการเลือกมันฝรั่งมาทำมันบดด้วยค่ะว่า....การเลือก
มันฝรั่งจะมีผลกับเนื้อสัมผัสของมันบด มันฝรั่งที่มีผิวบางเรียบเงา เป็นมันฝรั่ง
ที่มีแป้งน้อยและน้ำมาก สามารถนำไปต้มได้ มันประเภทนี้จะไม่ดูดน้ำมาก
เนื่องจากมีน้ำมากอยู่แล้ว ส่วนมันที่มีผิวสากๆ และหนา จะมีเนื้อที่แน่นและน้ำน้อย
ถ้าจะนำมาทำมันบด ควรจะนำไปนึ่งมากกว่าต้มเพราะจะดูดน้ำมากเกินไปค่ะ
การปรุงอาหารจากมันฝรั่ง...จะต้องล้างมันฝรั่งด้วยน้ำให้สะอาดก่อนที่จะนำมาต้ม
นึ่ง หรืออบ และควรปรุงทั้งเปลือกเพื่อรักษากลิ่นที่หอมของมันฝรั่งเอาไว้
และยังช่วยรักษาวิตามินซีในมันฝรั่งไม่ให้ถูกทำลายไปด้วยค่ะ
ส่วนน้ำที่ต้มมันฝรั่งนั้นสามารถเก็บไว้ไปทำน้ำซุปได้นะคะ
อาหารที่มีมันฝรั่งเป็นส่วนประกอบนั้นมีหลายอย่าง....นำมันฝรั่งมานึ่งให้สุก
แล้วทานเลยก็อร่อยได้ง่ายๆ ถ้านำไปทำมันบด สลัด ซุป หรือแกง ก็อร่อยยิ่งขึ้นค่ะ
และที่ดิฉันชอบทำบ่อยๆ เพราะทำได้ง่ายมากๆ และคนอื่นก็ต้องทำได้แน่นอน.....
คือแกงกะหรี่ญี่ปุ่น และสลัดมันฝรั่งบดสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ
ดูสูตรแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ที่นี่ ค่ะ
ดูสูตรสลัดมันบดสไตล์ญี่ปุ่น ที่นี่ ค่ะ
*ต่อจากนี้ไปดิฉันจะต้มมันฝรั่งทั้งเปลือกแล้วล่ะค่ะ*
การเก็บมันฝรั่ง....ไม่ควรนำมันฝรั่งไปแช่ตู้เย็น เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้ราก
ของมันฝรั่งงอกอย่างรวดเร็ว ควรวางมันฝรั่งไว้ในที่อุณหภูมิปกติ
และอากาศถ่ายเทได้สะดวกค่ะ
เพื่อสุขภาพที่ดี.....เพิ่มมันฝรั่งเป็นอาหารจานโปรดกันค่ะ
~~~~~~~~~~~~~~
ที่มาของข้อมูล : www.wikipedia.org, www.doctor.or.th
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น