โพสต์นี้...เอารูปซากุระบานสะพรั่งริมฝั่งแม่น้ำชิโรอิชิ (Shiroishi Riverside) มาให้ดูต่อค่ะ
อากาศเย็นสบาย...เดินเล่นกินลมชมวิวเพลินเลยค่ะ
จากที่วางแผนไว้ว่าจะเดินชมซากุระริมแม่น้ำชิโรอิชิกันซัก 2 ชั่วโมงแล้วไปขึ้นรถไฟ
ที่สถานีโอกาวาระในเวลาประมาณ 12.30 น. เพื่อไปชมซากุระที่ศาลเจ้าชิโอกามะต่อ
ก็ต้องเลื่อนเวลาออกไปเพราะดิฉันเพลิดเพลินกับซากุระที่นี่ซะจนลืมรักษาเวลา
กว่าจะเดินชิวๆ มาถึงสถานีโอกาวาระกันก็เกือบจะเป็นเวลา 14.00 น. แล้วล่ะค่ะ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
สถานที่ชมซากุระแห่งที่ 2
ศาลเจ้าชิโอกามะ (Shiogama Shrine)
ซึ่งมีประมาณ 30 สายพันธุ์ เป็นจุดชมซากุระที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว" และใช้เวลาเดินไป
จากสถานี Shiogama 15 นาที หรือจากสถานี Hon-Shiogama 10 นาที ทำให้ดิฉันเลือก
ศาลเจ้าชิโอกามะเป็นสถานที่ชมซากุระแห่งที่ 2 ในเมืองเซนไดค่ะ
ดิฉันเลือกเดินไปศาลเจ้าชิโอกามะจากสถานี Shiogama เพราะดูเส้นทางจาก Google map แล้ว
ระยะทางจากสถานีทั้งสองแห่งไปศาลเจ้าชิโอกามะเท่ากับ 1.2 กิโลเมตรเท่ากัน
ใช้ไม่ได้แล้ว...ต้องหาข้อมูลใหม่เลยค่ะ
จากสถานีโอกาวาระไปสถานีชิโอกามะใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมง
โดยต้องนั่งรถไฟ JR Tohoku Line for SENDAI ไปสถานีเซนไดก่อนแล้วเปลี่ยน
เป็นรถไฟอีกขบวนหนึ่งไปสถานีชิโอกามะ และมีรถไฟแค่ชั่วโมงละ 2 ขบวนเอง...
ต้องรีบไปรอขึ้นรถไฟขบวนที่จะออกในเวลา14.29 น. ให้ทัน....ไม่อย่างนั้น
จะต้องรอรถไฟขบวนต่อไปอีกตั้งครึ่งชั่วโมงเลยล่ะค่ะ
ดิฉันเดินทางถึงสถานีชิโอกามะในเวลาประมาณบ่ายสามโมงครึ่งนิดๆ....
พอออกจากสถานีก็หันซ้ายหันขวามองหาป้ายบอกทางไปศาลเจ้าชิโอกามะ
จะอาศัยเดินตามๆ คนอื่นไปอีกก็ไม่มีใครที่มีท่าทางว่าจะไปชมซากุระเลยล่ะค่ะ
แล้วดิฉันก็นึกแอพ google map...และให้ช่วยนำทางไปค่ะ
หลายคนน่าจะใช้แอพ google map นำทางกันอยู่บ่อยๆ แต่ดิฉันเพิ่งเคยใช้เป็นครั้งแรกค่ะ
พอออกจากสถานีก็หันซ้ายหันขวามองหาป้ายบอกทางไปศาลเจ้าชิโอกามะ
จะอาศัยเดินตามๆ คนอื่นไปอีกก็ไม่มีใครที่มีท่าทางว่าจะไปชมซากุระเลยล่ะค่ะ
แล้วดิฉันก็นึกแอพ google map...และให้ช่วยนำทางไปค่ะ
หลายคนน่าจะใช้แอพ google map นำทางกันอยู่บ่อยๆ แต่ดิฉันเพิ่งเคยใช้เป็นครั้งแรกค่ะ
แอพนี้ใช้ไม่ยากค่ะ
แค่เปิดแอพ...ใส่สถานที่ที่ต้องการไปและจุดเริ่มต้นการเดินทาง
แอพนี้ก็จะบอกทางเรา...ให้เราเลี้ยวซ้าย-เลี้ยวขวา-กลับหลังหัน-ข้ามถนน
และถ้าเราออกนอกเส้นทางก็จะบอกเส้นทางให้ใหม่จนเราไปสู่จุดหมายปลายทางได้ค่ะ
ดิฉันเดินๆ ไปตามที่แอพ google map บอก...จนถึงทางเข้าศาลเจ้าชิโอกามะ
แอพนี่ก็มีเสียงดังขึ้นมาแสดงว่าถึงจุดหมายแล้ว....แต่ดิฉันไม่ทราบว่าถึงแล้วน่ะค่ะ!!!
พอเดินเลยศาลเจ้าชิโอกามะไป...แอพก็ตั้งทิศให้ใหม่และบอกให้เดินกลับ
ดิฉันเดินกลับไป-กลับมา....ขึ้นหน้า-ถอยหลัง...อยู่บริเวณอยู่นานเพราะไม่เห็นทางเข้าค่ะ
ดิฉันเดินเลยมาจนเห็นทางที่เหมือนจะเป็นทางเข้าสถานที่อะไรสักอย่าง
และมีป้ายบอกข้อมูล....แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งดิฉันอ่านไม่ออกค่ะ
ระหว่างที่กำลังลังเลว่าจะเดินไปตามทางที่เป็นทางดินและ
มีลักษณะเป็นทางขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ดีมั้ย?....
ก็มีชายชาวญี่ปุ่นเดินสวนลงมา ดิฉันรีบเข้าไปถามทางทันทีค่ะ
หลังจากยื่นแผนที่ให้เค้าดูและใช้ภาษามือปนภาษาอังกฤษคุยกันอยู่ซักครู่
ดิฉันก็พอจะจับใจความได้ว่าสถานที่ที่อยู่ข้างบนนั้นไม่ใช่ศาลเจ้าชิโอกามะ
แต่เป็นอะไรนั้นดิฉันก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ
เค้ายังพยายามบอกต่อและชี้ไม้ชี้มือว่าให้ไปทางไหน...แต่ดิฉันก็ฟังรู้เรื่องบ้าง
ไม่รู้เรื่องบ้าง และบอกขอบคุณเค้าไปค่ะ
ดิฉันเดินย้อนกลับมาแบบงงๆ ว่าทำไมไม่เจอศาลเจ้าชิโอกามะทั้งๆ ที่เดินตาม
ที่แอพ google map บอกทางมาตลอดนะคะ
ดิฉันเดินกลับไป-กลับมา....ขึ้นหน้า-ถอยหลัง...อยู่บริเวณอยู่นานเพราะไม่เห็นทางเข้าค่ะ
ดิฉันเดินเลยมาจนเห็นทางที่เหมือนจะเป็นทางเข้าสถานที่อะไรสักอย่าง
และมีป้ายบอกข้อมูล....แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งดิฉันอ่านไม่ออกค่ะ
ระหว่างที่กำลังลังเลว่าจะเดินไปตามทางที่เป็นทางดินและ
มีลักษณะเป็นทางขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ดีมั้ย?....
ก็มีชายชาวญี่ปุ่นเดินสวนลงมา ดิฉันรีบเข้าไปถามทางทันทีค่ะ
หลังจากยื่นแผนที่ให้เค้าดูและใช้ภาษามือปนภาษาอังกฤษคุยกันอยู่ซักครู่
ดิฉันก็พอจะจับใจความได้ว่าสถานที่ที่อยู่ข้างบนนั้นไม่ใช่ศาลเจ้าชิโอกามะ
แต่เป็นอะไรนั้นดิฉันก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ
เค้ายังพยายามบอกต่อและชี้ไม้ชี้มือว่าให้ไปทางไหน...แต่ดิฉันก็ฟังรู้เรื่องบ้าง
ไม่รู้เรื่องบ้าง และบอกขอบคุณเค้าไปค่ะ
ดิฉันเดินย้อนกลับมาแบบงงๆ ว่าทำไมไม่เจอศาลเจ้าชิโอกามะทั้งๆ ที่เดินตาม
ที่แอพ google map บอกทางมาตลอดนะคะ
พอเดินกลับมา...ดิฉันก็เพิ่งเห็นป้ายบอกทางและทราบว่าทางดินที่เห็นนั่น
เป็นทางเดินขึ้นไป Shiogama Shrine Museum...และดิฉันเดินเลย
ศาลเจ้าชิโอกามะ (Shiogama Shrine) มา 250 เมตรแล้วล่ะค่ะ
ตอนที่เดินตามป้ายบอกทางกลับไปศาลเจ้าชิโอกามะ...
ดิฉันก็เห็นชายชาวญี่ปุ่นคนที่ดิฉันถามทางเมื่อกี้เดินสวนกลับมาและ
โบกไม้โบกมือเพื่อจะบอกดิฉันว่าศาลเจ้าชิโอกามะตั้งอยู่ข้างหน้าค่ะ....
โห....ดิฉันรีบก้มหัวขอบอกขอบใจเค้าอีกเป็นการใหญ่เลย...
เค้าเดินกลับมาเพื่อที่จะบอกทางให้นักท่องเที่ยวที่กำลังหลงทางด้วยล่ะค่ะ
เป็นทางเดินขึ้นไป Shiogama Shrine Museum...และดิฉันเดินเลย
ศาลเจ้าชิโอกามะ (Shiogama Shrine) มา 250 เมตรแล้วล่ะค่ะ
ตอนที่เดินตามป้ายบอกทางกลับไปศาลเจ้าชิโอกามะ...
ดิฉันก็เห็นชายชาวญี่ปุ่นคนที่ดิฉันถามทางเมื่อกี้เดินสวนกลับมาและ
โบกไม้โบกมือเพื่อจะบอกดิฉันว่าศาลเจ้าชิโอกามะตั้งอยู่ข้างหน้าค่ะ....
โห....ดิฉันรีบก้มหัวขอบอกขอบใจเค้าอีกเป็นการใหญ่เลย...
เค้าเดินกลับมาเพื่อที่จะบอกทางให้นักท่องเที่ยวที่กำลังหลงทางด้วยล่ะค่ะ
ไม่น่าแปลกใจที่ดิฉันมองไม่เห็นทางเข้าศาลเจ้าชิโอกามะค่ะ
เพราะบริเวณทางเข้าส่วนที่ติดถนนเป็นลานโล่งกว้าง ถ้าไม่เดินเข้าไป
หรือตั้งใจมองจะไม่เห็นเสาหินและป้ายบอกสถานที่น่ะค่ะ
เพราะบริเวณทางเข้าส่วนที่ติดถนนเป็นลานโล่งกว้าง ถ้าไม่เดินเข้าไป
หรือตั้งใจมองจะไม่เห็นเสาหินและป้ายบอกสถานที่น่ะค่ะ
ตอนที่หาข้อมูลของศาลเจ้าชิโอกามะ...ดิฉันก็รีบๆ หาแต่สถานที่ตั้ง
และวิธีการเดินทาง ไม่ได้ดูรายละเอียดอะไรมากมายนัก....
จนกระทั่งมาถึงสถานที่จริงแล้วถึงได้รู้ว่า...
ศาลเจ้าชิโอกามะตั้งอยู่บนเนินเขาโน่นนนนน....น่ะค่ะ
แย่แล้วววว....ไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่อเดินขึ้นบันไดหลายๆ ขั้นแบบนี้ด้วยสิค่ะ
ดิฉันกะๆ ด้วยสายตาแล้ว...เดินขึ้นบันไดหลายสิบขั้นนี่ก็ใช้เวลาพอสมควร
แล้วรองเท้าที่ใส่มาก็เป็นรองเท้าแบบมีส้นซะด้วย....ไม่เหมาะกับการเดินไต่บันได
ขึ้นที่สูงแน่ๆ ก็เลยจดๆ จ้องกันอยู่พักนึง เพราะอุตส่าห์เดินหาทางเข้าศาลเจ้าชิโอกามะ
กันจนเจอแล้วก็อยากจะขึ้นไปให้ถึงศาลเจ้าชิโอกามะเลย แต่ถ้าพลาดพลั้งตกบันได
บาดเจ็บก็จะไม่คุ้มเพราะยังต้องเที่ยวกันอีกหลายวันน่ะค่ะ
และแล้ว...ในที่สุดก็ต้องถอดใจ เอาไว้ค่อยหาโอกาสมาเยี่ยมชมกันใหม่ดีกว่าค่ะ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
สถานที่ชมซากุระแห่งที่ 3
สวนสาธารณะสึสึจิงาโอคะ (Tsutsuijigaoka Park)
แหล่งข้อมูล: www.talonjapan.com
ข้อมูลจากเว็ปไซต์ www.talonjapan.com ....ที่ว่า "สวนสึสึจิงาโอคะตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซนได
เต็มไปด้วยต้นซากุระพันธ์ุโซเมอิ โยชิโนะ สามารถมองเห็นดอกซากุระได้ตลอดทางเดินในสวน"
ดิฉันเลยเลือกไปดูซากุระในสวนสึสึจิงาโอคะช่วงเย็นๆ...จะได้เดินเล่นชิวๆ ดูซากุระสวยๆ น่ะค่ะ
สวนสึสึจิงาโอคะตั้งอยู่ใกล้สถานีสึสึจิงาโอคะหรือเดินจากสถานีเซนไดก็ได้...
ใช้เวลาเดิน 20 นาทีค่ะ
ถ้าไม่ขยันเดินก็นั่งรถไฟจากสถานีเซนไดไปลงที่สถานีสึสึจิงาโอคะก่อนได้ค่ะ
จากสถานีโอกามะไปสถานีสึสึจิงาโอคะใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง
โดยนั่งรถไฟไปที่สถานีเซนไดก่อนแล้วเปลี่ยนขบวนไปสถานีสึสึจิงาโอคะอีกทีนึงค่ะ
ดิฉันเดินกลับมาที่สถานีโอกามะไม่ทันขึ้นรถไฟเวลา 16.47 น....ต้องรอขึ้นขบวนถัดไป
กว่าจะถึงสถานีเซนไดก็เกือบจะห้าโมงครึ่งแล้วเลยคิดว่าเวลาที่จะไปเดินเล่นในสวน
น่าจะเหลือน้อยเกินไปแล้วล่ะค่ะ
ดิฉันอยากไปให้ถึงสวนสึสึจิงาโอคะประมาณห้าโมงเย็น...จะได้มีเวลาเดินเล่นสบายๆ
ซักชั่วโมงนึง แล้วกลับไปขึ้นรถไฟที่สถานีเซนไดประมาณหนึ่งทุ่ม
เพื่อจะได้กลับถึงโตเกียวไม่เกินสามทุ่มน่ะค่ะ
แต่...ตอนนี้เวลาช้ากว่าที่วางแผนไว้ไปเยอะเลย...กว่าจะไปถึงสวนสึสึจิงาโอคะ
ก็น่าจะประมาณหกโมงเย็น เดินๆ ได้แป๊บเดียวก็ต้องรีบกลับ...
คิดๆ แล้วก็ไม่อยากเดินไปแล้ว...รีบไปรีบกลับก็ไม่น่าจะได้อะไรซักเท่าไรเลยค่ะ
ก็เลยเปลี่ยนแผนกันซะแล้ว....พอถึงสถานีเซนไดก็เดินทางกลับโตเกียวกันเลยค่ะ
ตารางเวลารถไฟที่ได้จาก Hyperdia.com...มีรถไฟจากสถานีเซนไดไปถึงสถานีอิเคะบุคุโระ
ประมาณสองทุ่ม....ไล่เลี่ยกันถึง 3 เส้นทาง ดิฉันเลือกเส้นทางที่ใช้เวลาเดินทางและ
เปลี่ยนขบวนรถไฟน้อยกว่า...เป็น Route 3...ออกเดินทางเวลา 18.21 น. ถึงสถานีอิเคะบุคุโระ
เวลา 20.11 น. แวะเปลี่ยนขบวนรถไฟหนึ่งครั้งที่สถานีโอมิยะค่ะ
**ดูข้อมูลการใช้ Hyperdia.com อย่างละเอียดได้ ที่นี่ นะคะ
การเลือกออกเดินทางในเวลา 18.21 น. ทำให้ดิฉันมีเวลาไปจองที่นั่งบนชินเคนเซนก่อน
ด้วยล่ะค่ะการจองที่นั่งบนชินคันเซนและรถด่วนอื่นๆ...ไม่ยากเลย ถ้าหา
'Shinkansen and JR Line Office' หรือที่นิยมเรียกกันว่า 'Midori no Madogushi (みどりの窓口)'
เจอก็สามารถจองที่นั่งกันได้แล้ว ซึ่ง Shinkansen and JR Line Office นี้ก็หาไม่ยากอีกเช่นกัน...
มองหาออฟฟิศที่มีแถบป้ายใหญ่ๆ สีเขียวและมีเครื่องหมายที่เห็นข้างล่างนี่เลยค่ะ
ดูข้อมูลการอ่านข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏบนตั๋วรถไฟที่ www.jreast.co.jp ค่ะ
ระหว่างที่ดิฉันรอตั๋วรถไฟจากสถานีเซนไดไปสถานีอิเคะบุคุโระ...ก็นึกได้ว่ากว่าจะกลับไปถึง
สถานีอิเคะบุคุโระก็สองทุ่มกว่าแล้ว ซึ่ง Shinkansen and JR Line Office ที่โน่นก็น่าจะปิดแล้วล่ะค่ะ
ดิฉันก็เลยจองที่นั่งสำหรับการเดินทางในวันรุ่งขึ้นไว้เลยจะได้ไม่ต้องรอออฟฟิศเปิดทำการหรือ
ไปขึ้นรถไฟแบบไม่ได้จองที่นั่งซึ่งก็ต้องไปลุ้นเอาว่าจะมีที่นั่งว่างหรือเปล่าน่ะค่ะ
ดิฉันยื่นตารางเวลารถไฟของการเดินทางในวันรุ่งขึ้นไปให้เจ้าหน้าที่เพื่อจองที่นั่ง โดยตั้งใจ
จะจองที่นั่งแค่ช่วงขาไปก่อนแล้วค่อยไปจองที่นั่งช่วงขากลับที่สถานีที่จะเดินทางกลับ
(เกรงใจคนอื่นที่ยืนรอคิวอีกหลายคน) แต่เจ้าหน้าที่ถามว่าจะกลับตอนกี่โมง...
และถามต่ออีกว่าแล้ววันต่อไปจะไปไหนบ้าง....เค้าจะได้สำรองที่นั่งให้เลยน่ะค่ะ
ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย แต่เกรงใจคนอื่นเหมือนกัน...ดิฉันก็เลยสำรองที่นั่งอีกแค่ 2 วันพอค่ะ
*ผู้ที่ใช้ JR PASS สามารถจองที่นั่งบนรถไฟได้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มยกเว้นขบวน
NOZOMI และ MOZUHO ค่ะ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
พอกลับถึงสถานีอิเคะบุคุโระก็หาอาหารเย็นรับประทานกันก่อนเลย....หิวมากๆๆๆ
น้ำและขนมนิดหน่อยๆ ที่ซื้อมารับประทานรองท้องระหว่างเดินทางกลับ
ย่อยไปหมดแล้วล่ะค่ะ
ดิฉันกะๆ ด้วยสายตาแล้ว...เดินขึ้นบันไดหลายสิบขั้นนี่ก็ใช้เวลาพอสมควร
แล้วรองเท้าที่ใส่มาก็เป็นรองเท้าแบบมีส้นซะด้วย....ไม่เหมาะกับการเดินไต่บันได
ขึ้นที่สูงแน่ๆ ก็เลยจดๆ จ้องกันอยู่พักนึง เพราะอุตส่าห์เดินหาทางเข้าศาลเจ้าชิโอกามะ
กันจนเจอแล้วก็อยากจะขึ้นไปให้ถึงศาลเจ้าชิโอกามะเลย แต่ถ้าพลาดพลั้งตกบันได
บาดเจ็บก็จะไม่คุ้มเพราะยังต้องเที่ยวกันอีกหลายวันน่ะค่ะ
และแล้ว...ในที่สุดก็ต้องถอดใจ เอาไว้ค่อยหาโอกาสมาเยี่ยมชมกันใหม่ดีกว่าค่ะ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
สถานที่ชมซากุระแห่งที่ 3
สวนสาธารณะสึสึจิงาโอคะ (Tsutsuijigaoka Park)
แหล่งข้อมูล: www.talonjapan.com
ข้อมูลจากเว็ปไซต์ www.talonjapan.com ....ที่ว่า "สวนสึสึจิงาโอคะตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซนได
เต็มไปด้วยต้นซากุระพันธ์ุโซเมอิ โยชิโนะ สามารถมองเห็นดอกซากุระได้ตลอดทางเดินในสวน"
ดิฉันเลยเลือกไปดูซากุระในสวนสึสึจิงาโอคะช่วงเย็นๆ...จะได้เดินเล่นชิวๆ ดูซากุระสวยๆ น่ะค่ะ
สวนสึสึจิงาโอคะตั้งอยู่ใกล้สถานีสึสึจิงาโอคะหรือเดินจากสถานีเซนไดก็ได้...
ใช้เวลาเดิน 20 นาทีค่ะ
ถ้าไม่ขยันเดินก็นั่งรถไฟจากสถานีเซนไดไปลงที่สถานีสึสึจิงาโอคะก่อนได้ค่ะ
จากสถานีโอกามะไปสถานีสึสึจิงาโอคะใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง
โดยนั่งรถไฟไปที่สถานีเซนไดก่อนแล้วเปลี่ยนขบวนไปสถานีสึสึจิงาโอคะอีกทีนึงค่ะ
ดิฉันเดินกลับมาที่สถานีโอกามะไม่ทันขึ้นรถไฟเวลา 16.47 น....ต้องรอขึ้นขบวนถัดไป
กว่าจะถึงสถานีเซนไดก็เกือบจะห้าโมงครึ่งแล้วเลยคิดว่าเวลาที่จะไปเดินเล่นในสวน
น่าจะเหลือน้อยเกินไปแล้วล่ะค่ะ
ดิฉันอยากไปให้ถึงสวนสึสึจิงาโอคะประมาณห้าโมงเย็น...จะได้มีเวลาเดินเล่นสบายๆ
ซักชั่วโมงนึง แล้วกลับไปขึ้นรถไฟที่สถานีเซนไดประมาณหนึ่งทุ่ม
เพื่อจะได้กลับถึงโตเกียวไม่เกินสามทุ่มน่ะค่ะ
แต่...ตอนนี้เวลาช้ากว่าที่วางแผนไว้ไปเยอะเลย...กว่าจะไปถึงสวนสึสึจิงาโอคะ
ก็น่าจะประมาณหกโมงเย็น เดินๆ ได้แป๊บเดียวก็ต้องรีบกลับ...
คิดๆ แล้วก็ไม่อยากเดินไปแล้ว...รีบไปรีบกลับก็ไม่น่าจะได้อะไรซักเท่าไรเลยค่ะ
ก็เลยเปลี่ยนแผนกันซะแล้ว....พอถึงสถานีเซนไดก็เดินทางกลับโตเกียวกันเลยค่ะ
ประมาณสองทุ่ม....ไล่เลี่ยกันถึง 3 เส้นทาง ดิฉันเลือกเส้นทางที่ใช้เวลาเดินทางและ
เปลี่ยนขบวนรถไฟน้อยกว่า...เป็น Route 3...ออกเดินทางเวลา 18.21 น. ถึงสถานีอิเคะบุคุโระ
เวลา 20.11 น. แวะเปลี่ยนขบวนรถไฟหนึ่งครั้งที่สถานีโอมิยะค่ะ
**ดูข้อมูลการใช้ Hyperdia.com อย่างละเอียดได้ ที่นี่ นะคะ
การเลือกออกเดินทางในเวลา 18.21 น. ทำให้ดิฉันมีเวลาไปจองที่นั่งบนชินเคนเซนก่อน
ด้วยล่ะค่ะการจองที่นั่งบนชินคันเซนและรถด่วนอื่นๆ...ไม่ยากเลย ถ้าหา
'Shinkansen and JR Line Office' หรือที่นิยมเรียกกันว่า 'Midori no Madogushi (みどりの窓口)'
เจอก็สามารถจองที่นั่งกันได้แล้ว ซึ่ง Shinkansen and JR Line Office นี้ก็หาไม่ยากอีกเช่นกัน...
มองหาออฟฟิศที่มีแถบป้ายใหญ่ๆ สีเขียวและมีเครื่องหมายที่เห็นข้างล่างนี่เลยค่ะ
แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่าจะพูดกับเจ้าหน้าที่ไม่รู้เรื่องนะคะ
เอาตารางเวลารถไฟที่ได้จาก Hyperdia.comให้เจ้าหน้าที่ดูเลย...
แล้วเค้าจะดำเนินการออกตั๋วมาให้เรา...ง่ายๆ เท่านี้เองล่ะค่ะ
ดูข้อมูลการอ่านข้อมูลต่างๆ ที่ปรากฏบนตั๋วรถไฟที่ www.jreast.co.jp ค่ะ
ระหว่างที่ดิฉันรอตั๋วรถไฟจากสถานีเซนไดไปสถานีอิเคะบุคุโระ...ก็นึกได้ว่ากว่าจะกลับไปถึง
สถานีอิเคะบุคุโระก็สองทุ่มกว่าแล้ว ซึ่ง Shinkansen and JR Line Office ที่โน่นก็น่าจะปิดแล้วล่ะค่ะ
ดิฉันก็เลยจองที่นั่งสำหรับการเดินทางในวันรุ่งขึ้นไว้เลยจะได้ไม่ต้องรอออฟฟิศเปิดทำการหรือ
ไปขึ้นรถไฟแบบไม่ได้จองที่นั่งซึ่งก็ต้องไปลุ้นเอาว่าจะมีที่นั่งว่างหรือเปล่าน่ะค่ะ
ดิฉันยื่นตารางเวลารถไฟของการเดินทางในวันรุ่งขึ้นไปให้เจ้าหน้าที่เพื่อจองที่นั่ง โดยตั้งใจ
จะจองที่นั่งแค่ช่วงขาไปก่อนแล้วค่อยไปจองที่นั่งช่วงขากลับที่สถานีที่จะเดินทางกลับ
(เกรงใจคนอื่นที่ยืนรอคิวอีกหลายคน) แต่เจ้าหน้าที่ถามว่าจะกลับตอนกี่โมง...
และถามต่ออีกว่าแล้ววันต่อไปจะไปไหนบ้าง....เค้าจะได้สำรองที่นั่งให้เลยน่ะค่ะ
ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย แต่เกรงใจคนอื่นเหมือนกัน...ดิฉันก็เลยสำรองที่นั่งอีกแค่ 2 วันพอค่ะ
*ผู้ที่ใช้ JR PASS สามารถจองที่นั่งบนรถไฟได้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มยกเว้นขบวน
NOZOMI และ MOZUHO ค่ะ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
พอกลับถึงสถานีอิเคะบุคุโระก็หาอาหารเย็นรับประทานกันก่อนเลย....หิวมากๆๆๆ
น้ำและขนมนิดหน่อยๆ ที่ซื้อมารับประทานรองท้องระหว่างเดินทางกลับ
ย่อยไปหมดแล้วล่ะค่ะ
ไม่รู้ว่าร้านนี้มีชื่อว่าอะไร....เห็นว่ามีที่นั่งว่างก็เข้าไปสั่งอาหารเลยค่ะ
หลังจากที่ได้เติมพลังงานกันแล้วก็มีแรงช้อปปิ้งต่อค่ะ ^^
เพื่อนร่วมทางของดิฉันเล็งร้าน Matsumoto Kiyoshi (ดิฉันเรียกว่าร้านขายเครื่องสำอางค์สีเหลือง)
ร้านนี้ไว้ตั้งแต่วันที่เดินทางมาถึงแล้วล่ะค่ะ
ร้าน Matsumoto Kiyoshi สาขานี้ตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานีอิเคะบุคุโระ (ทางออกทิศเหนือ)
...อยู่ในเส้นทางเดินไปโรงแรมซะด้วย เดินผ่านทุกวัน....ก็แวะทุกวันเลยล่ะค่ะ
ดูแผนที่ย่านคิเคะบุคุโระฉบับเต็มและข้อมูลต่างๆ ที่นี่ ค่ะ
ที่ร้าน Matsumoto Kiyoshi มีส่วนลดสำหรับผู้ใช้บัตรเครดิต JCB ด้วยนะคะ
เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรตั้งแต่ 10,000 เยนจะได้รับส่วนลด 3% และ
เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรตั้งแต่ 30,000 เยนจะได้รับส่วนลด 5%
โดยจะต้องแสดงบาร์โค้ด (ดาวน์โหลด ที่นี่ ) เพื่อรับส่วนลดค่ะ
โปรโมชั่นนี้มีถึงวันที่ 31 มีนาคม 2560 นะคะ
ดูรายละเอียด JCB x Matsumoto Kiyoshi Discount Campaign เพิ่มเติม ที่นี่ ค่ะ
**ตอนนี้นักท่องเที่ยวจะได้รับ Tax-Free เมื่อซื้อสินค้าบริโภคที่มีมูลค่าเกิน 5,000 เยน
และสินค้าอุปโภคที่มีมูลค่าเกิน 10,000 เยนนะคะ
บรรยากาศยามค่ำคืนบนเส้นทางจากสถานีคิเคะบุคุโระไป Toyoko Inn ค่อนข้าง
คึกคัก เต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านเหล้า...โดยเฉพาะคืนวันศุกร์และวันเสาร์
จะมีคนออกมารับประทานอาหารและสังสรรค์กันในย่านนี้เยอะมากค่ะ
คึกคัก เต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านเหล้า...โดยเฉพาะคืนวันศุกร์และวันเสาร์
จะมีคนออกมารับประทานอาหารและสังสรรค์กันในย่านนี้เยอะมากค่ะ
Toyoko Inn ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีคิเคะบุคุโระเลย...เดินทางไปมาสะดวกมาก
ถ้าไปเที่ยวโตเกียวอีก...ดิฉันก็คงจะไปพักที่นี่ล่ะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น